เหตุผลหลักเลยในการเลือกทีวีทั้ง 2 รุ่นนี้มาเพราะภาพรวมเทคโนโลยยีต่างๆอยู่ในเกณฑ์ทันสมัยโดยเฉพาะความเป็น SMART TV ที่ผมเน้นมาตลอดว่าจำเป็นมากหากไม่อยากได้ทีวีตกรุ่นไปใช้ อย่างไรก็ตาม sony tv ทั้งสองรุ่นจะมีฟังก์ชั่นเล็กๆน้อยๆที่บางคนก็คิดว่าจำเป็นแต่บางคนกลับมองว่าสิ้นเปลืองในการลงทุนผมจึงต้องจับมาแจกแจงรายละเอียดกันให้อ่านข้อต่อข้อเลยครับ
เริ่มจากดีไซน์เรียกว่าทั้งสองตัวเหมือนกันแทบจะทุกมุมองไม่ว่าจะเป็นหน้าจอหรือขาตั้งแตกต่างที่ขนาดเท่านั้นที่แบ่งแยกได้ชัดที่สุด (KDL-40W700C 40 นิ้ว และ KDL-55W800C (55 นิ้ว)
ถัดมาที่เทคโนโลยีการรับชมแม้ sony tv ทั้งสองรุ่นจะใช้ความละเอียดแบบ Full HD (1920 x 1080) พร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง X-Reality PRO (ปรับสเกลความสมจริงของภาพ) รวมถึง ClearAudio (คุณภาพเสียง) แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนคือค่า Motionflow XR ที่รุ่น 40 นิ้วใช้ 200 Hz แต่รุ่น 55 นิ้วกระโจนไปที่ 800 Hz ทีเดียวเชียว ถามว่าเจ้าค่า Motionflow XR คืออะไร? ตอบคือค่าเกี่ยวกับการแทรกเฟรมในคอนเทนท์แต่ละแบบการรับชมจะสมูทมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับค่านี้ แต่ถามว่ารุ่น 40 นิ้ว (Motionflow XR 200 Hz) เพียงพอต่อการรับชมแค่ไหน? บอกเลยว่าไม่ขี้เหร่เพราะ led tv ส่วนมากจะให้มาแค่ 100 Hz แถามไม่ใช่เทคโนโลยีแบบเดียวกับ sony tv อีกด้วย
สิ่งที่โดดเด่นและมีในสองรุ่นนี้คือเทคโนโลยี Viewing Angle ที่จะพูดถึงมุมมองการรับชมกว้าง 178 องศา ตรงนี้ไม่ว่ารับชม sony tv จากมุมไหนในห้องก็คมชัดเท่าการนั่งหันหน้าตรงเข้าทีวี มาถึงสิ่งที่แตกต่างคือในรุ่น 55 นิ้วรองรับการรับชมแบบ 3D เพิ่มเข้ามา
ปิดท้ายกับฟังก์ชั่น Smart tv ที่แตกต่างกันกันที่เวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติซึ่ง KDL-55W800C (55 นิ้ว) ใช้เวอร์ชั่นใหม่กว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นได้เหมือนกันจะแตกต่างที่หน้าอินเตอร์เฟซและรุ่น 55 นิ้ว จะรองรับใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้มากกว่า รวมถึง Google Cast (การย้ายคอนเทนท์จากสมาร์ทโฟนขึ้นจอทีวี) และ Voice Search ในการควบคุมและค้นหา
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น