หากคุณเป็นคนหนึ่งที่วนเวียนอยู่ในวงการแต่งบ้านล่ะก็คงเคยผ่านตากับตู้เย็นของค่ายนี้บ้างเพราะนับเป็นตัวเอ้ที่มักถูกจับไปเป็นนายแบบให้กับนิตยสารบ้านแทบจะทุกฉบับ เหตุผลไม่มีไรมากครับเพราะดีไซน์ย้อนยุคแบบ 50’S RETRO ที่ Smeg วางเป็นกลยุทธ์หลักมันจี๊ดโดนใจชาวโลกไม่เสียชื่อที่เป็นบริษัทผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศจอมแฟชั่นอย่างอิตาลี
Renzo Piano คือเบื้องหลังการออกแบบตู้เย็นที่เน้นความหรูหราไม่ต้องมีอะไรมาเจือปนให้ยุ่งยากทำให้การตั้งราคาของตู้เย็นจึงยืนกระต่ายขาเดียวอยู่ในระดับพรีเมี่ยมหาได้สนใจตลาดระดับล่างไม่ อย่างไรก็ตามนอกจากรูปลักษณ์ที่มีเอกลักษณ์อีกสิ่งที่ Smeg ใส่มาสร้างความแตกต่างจากตู้เย็นค่ายอื่นคือประสิทธิภาพอันเหนือชั้นไม่ให้ใครครหาได้ว่า"สวยแต่รูปจูบไม่หอม"
เมื่อเปิดประตูตู้ออกมาคุณจะต้องทึ่งกับพื้นที่ภายในที่กว้างขวางกับขนาดความจุระดับ 256 ลิตร แยกเป็นช่องแช่ปกติและช่องแช่แข็ง รวมทั้งตะแกรงแช่ไวน์โดยเฉพาะ คอมเพรสเซอร์พิเศษคอยควบคุมแรงลมในการเปิด/ปิดตู้ลดการใช้พลังงานมากกว่า พร้อมมาตรฐานประหยัดพลังงานระดับ A++(-20%) ที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
สำหรับตู้เย็น Smeg เข้ามาทำตลาดในไทยนานถึง 17 ปีแล้ว แต่เชื่อว่าหลายคนก็เพิ่งรู้จักจากบทความนี้ ซึ่งจากข้อมูลผมเชื่อว่านี่ไม่ใช่แค่ตู้เย็นแต่เป็นเฟอร์นิเจอร์ประดับบ้านระดับท็อปที่แม้ราคาจะแพงเอามากๆแต่จากคุณสมบัติและดีไซน์ซื้อไปแล้วคุ้มไม่คุ้มก็ขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนบุคคลของผู้บริโภคแต่ละรายล้วนๆเลยครับ
1 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น