sony tv อีกหนึ่งแบรนด์โทรทัศน์ชั้นนำของวงการกับนวัตกรรมความบันเทิงที่โดดเด่นในรุ่นต่างๆทางเลือกตอบโจจทย์ความต้องการทุกแบบ สำหรับเทรนด์ Smart tv เพิ่มฟังก์ชั่นการใช้งานคอนเทนท์ออนไลน์มากมายมีรุ่นไหนจากโซนี่น่าสนใจบ้างไปดูกัน
ซีรีย์แรกเป็นรหัสจำพวก W600D, W650D, W750D ที่โดดเด่นเรื่องราคาประหยัดเริ่มต้นเพียง 1 หมื่นต้นๆเท่านั้น และก็เข้าคอนเซ็ปต์สมาร์ททีวีในรูปแบบดิจิตอลทีวีชูโรงด้วย Youtube ที่การันตีว่าใช้งานได้ดีเยี่ยมบน sony tv รุ่นนี้เพียงแต่ข้อด้อยอาจจะเป็น Platform ที่จำกัดความสามารถในการใช้งานบางแอพฯและหน้าจอความละเอียดสูงสุดแค่ Full HD
ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยที่ sony tv ส่งทีวีแบบ 3D ออกมาราคาประหยัดออกมาในรุ่น W800C แม้จะเป็นหน้าจอความละเอียดแบบ Full HD แต่ปรับค่าการแทรกเฟรมMotionflow XR สูงถึง 800Hz และยังเป็นสมาร์ททีวีที่มีระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งถือเป็น Platform ที่ใช้ในทีวีรุ่นใหม่ทุกรุ่นจึงมั่นใจได้ว่าความสามารถเด็ดๆที่พัฒนาโดย Google ใช้งานได้จริง
Google Cast หนึ่งในฟังก์ชั่นอันโดดเด่นของ Android TV
ความคมชัดสูงสุดระดับ Ultra HD (3840 x 2160 Pixel) หรือที่เรียกว่า 4K TV คือสเปคระดับท็อปที่หลายคนให้ความสนใจซึ่งในรุ่น SONY KD-55X8500D ถูกพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาให้ครบครันดังนี้
- High Dynamic Range (HDR) นวัตกรรมคอนทราสต์ใหม่ล่าสุดที่เข้าถึงทุกรายละเอียดการแสดงผลที่ดีที่สุด
- ชิพประมวลผล 4K Processor X1 และ 4K X-Reality PRO ให้ความคมชัดเสมือนจริงสูง
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของเสียงด้วยเทคโนโลยีมากมายทั้ง DSEE, S-Force Front Surround, ClearAudio+ และ Clear Phase ทั้งหมดส่งให้ sony tv เครื่องนี้สมบูรณ์แบบบนพื้นฐานความเป็น Smart tv ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพตอบโจทย์ทุกความบันเทิงอย่างเหนือชั้น
ยังไม่หมดเพราะยังมีรุ่นที่เหนือชั้นกว่านี้อีกกับ X9300D, X9300C หรือ 9400C ที่เพิ่มคุณสมบัติการรับชม 3D บนความละเอียดแบบ 4K Ultra HD พร้อมปรับค่าการแทรกเฟรมมาเป็น Motionflow XR 1200Hz พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ตั้งแต่ 63 นิ้วขึ้นไป ฯลฯ
ทั้งหมดคือการรีวิวสเปค sony tv รุ่นต่างๆเปรียบเทียบเทคโนโลยีเพื่อการรับชมที่เหมาะกับคุณมอบประสบการณ์ความบันเทิงสำหรับการเลือกซื้อที่คุ้มค่าที่สุด
panasonic tv ถือเป็นแบรนด์ที่ทำตลาดมาอย่างยาวนานพร้อมมาตรฐานระดับสูงที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนเทใจให้ไปเต็มๆ ในฟังก์ชั่นของทีวีก็เช่นกันแต่คุณต้องทำความรู้จักเทคโนโลยีของแต่ละรุ่นสักหน่อยเพื่อการเลือกซื้อที่คุ้มค่าที่สุด
เริ่มจากรุ่นเล็กที่แนะนำสำหรับคนที่เน้นราคาประหยัดใช้รับชมในครัวเรือนทั่วๆไปทั้งสองรุ่นทำได้ดีกับฟังก์ชั่นการใช้งานที่ง่ายอย่างในรุ่น 32 นิ้ว ใช้ความละเอียดแบบ HD Ready + 100 Hz และอีกรุ่นขยับมาเป็น Full HD + Hz พร้อมหน้าต่างจัดการการเล่นไฟล์จาก USB ไม่ว่าจะหนัง เพลง หรือภาพ คุณสามารถจัดการได้อย่างเป็นระเบียบใน Media Player
ขยับมาที่รุ่นที่เป็น Smart tv กับความสามารถในการเข้าเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นชั้นนำอย่าง Facebook หรือ Youtube เพิ่มความสะดวกในการใช้งานด้านความบันเทิง panasonic tv ทั้งสองรุ่นใช้ความละเอียดแบบ Full HD คำแนะนำของผมคือด้วยราคาทีวีที่ต่างกันเล็กน้อยให้เลือก CS630T ที่พกเทคโนโลยีที่ดีกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสีสันกับ HEXA Chroma Drive และหน้าต่าง my Home Screen ที่เป็นระเบียบกว่าในการใช้งานฟังก์ชั่นสมาร์ททีวีนั่นเอง
และ panasonic tv รุ่นสุดท้ายเป็นรุ่นท็อปสุดที่พกหน้าจอความละเอียดแบบ 4K ค่าการแทรกเฟรมสูง 800 Hz ผสานเทคโนโลยี HEXA Chroma Drive และ Super Bright Panel Plus ประมวลผลด้วยซีพียู Quad Core Pro เรื่องความคมชัดหายห่วงบนหน้าจอขนาด 60 นิ้ว
หน้าอินเตอร์เฟซ my Home Screen 2.0 ล้ำสมัยพร้อมรองรับการใช้งานแอพพลิเคชั่นได้มากกว่า และมอบความบันเทิงที่เหนือชั้นกับฟังก์ชั่น TV Anytime & USB-HDD Recording รับชมรายการโปรดผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกเวลารวมถึงบันทึกรายการไว้รับชมภายหลังได้อีกด้วย
sharp tv อีกหนึ่งนวัตกรรมทีวีจากญี่ปุ่นที่ส่งมาทำตลาดหลายรุ่นโดยมีสเปคและราคาที่แตกต่างของรุ่นต่างๆ บทความรีวิวผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชาร์ปเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อที่ตรงตามการใช้งาน
เริ่มจากหน้าจอ 32 นิ้ว LE260M หรือ LE260 มีให้เลือก 2 สีคือดำและขาวบนความละเอียดแบบ HD Ready (1366 x 768) พร้อมเทคโนโลยี AquoMotionLite 200/240 Hz ซึ่งนับว่าสูงกว่า led tv ทีวีหน้าจอขนาดเดียวกันที่ใช้แค่ 100 Hz ภาพเคลื่อนไหวจึงสมูทกว่า
ขยับมาที่ sharp tv หน้าจอ 40 นิ้ว ที่ปรับมาใช้ความละเอียดแบบ Full HD แต่มีความแตกต่างกันของสองรุ่นคือ LE275X ใช้ค่าการแทรกเฟรมระดับ 200/240 Hz และเทคโนโลยีเสริมเรื่องภาพและเสียงอย่าง Eagle View/Dolby Digital Plus แต่ในส่วนของ LE265M ใส่มาแค่ 50/60 Hz เท่านั้นแต่อย่างไรก็ตาม LE265M ก็มีราคาทีวีที่ถูกกว่า
ส่วนหน้าจอขนาดใหญ่ขนาด 50 นิ้ว มาพร้อมกัน 3 ทางเลือกหากเน้นใช้งานในการรับชมทั่วไปแนะนำรุ่น LE275X สเปคของรุ่นนี้ถือเป็นตัวธรรมดาด้วย Full HD + AquoMotionLite 200/240 Hz เพียงแต่ปรับหน้าจอใหญ่ขึ้นเท่านั้น
ในพาร์ทของความเป็น SMART TV มี 2 รุ่นครับกับหน้าจอ 50 นิ้ว คือ LE570X และ UE630X ความแตกต่างคือความคมชัดที่ LE570X ใช้แบบ Full HD + ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4.4 ส่วนชาร์ป UE630X ใช้ความละเอียดสูงสุดแบบ Ultra HD 4K พร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด Android Lollipop 5.1 ที่รองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆได้มากกว่า
ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปของ sharp tv กับซีรีย์ LE960X มีหน้าจอ 60 และ 70 นิ้วให้เลือกกับความสามารถในการรองรับการรับชมคอมเทนท์ 3 มิติ ความละเอียดแบบ ULTRA HD 4K (3840 x 2160) ผสานค่า AquoMotion สูงถึง800/960 เก็บทุกรายละเอียดเข้าถึงอารมณ์ที่สุด
ส่วนเรื่องของคอนทราสต์ก็ใช้เทคโนโลยีจอภาพ X-Gen ภาพโทนมืดจึงเข้มที่สุดเช่นเดียวกับโทนสีขาวก็ไม่พลาดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ นอกจากนี้ยังใช้ชิพประมวลผล Quattron Pro ควบคุมการทำงานในเรื่องของภาพที่สมจริงและความไหลลื่นของฟังก์ชั่นสมาร์ททีวีเวอร์ชั่นล่าสุด
smart tv หากใช้แนวทางการเลือกซื้อแบบทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับขนาดหน้าจอ , ความคมชัด และการทำงานฟังก์ชั่นพิเศษอย่างระบบสมาร์ททีวีแต่การลงลึกรายละเอียดเรื่องการแสดงผลเป็นสิ่งที่จำเป็นเพราะแต่ละค่ายก็มีรูปแบบเฉพาะตัวนั่นเอง
ปัจจัยความคมชัดของภาพหลายคนน่าจะรู้จักความละเอียดแบบ Full HD และแบบ UHD 4K กันอยู่แล้วซึ่งเทคโนโลยีเสริมด้านภาพไม่ว่าจะเป็นสีสันหรือคอนทราสต์ (มืด/สว่าง) คือสิ่งที่ถูกเสริมเข้าไปเพื่อยกระดับความแตกต่างของ smart tv แต่ละยี่ห้อนั่นเอง
ทั้งหมดคือสิ่งที่ smart tv ทุกแบรนด์สร้างสรรค์มาเพื่อยกระดับความบันเทิงในบ้านอันเหนือชั้น เน้นเรื่องภาพไปแล้วอย่างลืมตรวจสอบการทำงานของระบบปฏิบัติการที่โดนใจในบทความเก่าๆกับรีวิวเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับท็อปจากร้านค้าออนไลน์ชั้นนำของไทย
smart tv ที่ดีนอกจากความละเอียดแบบ Ultra HD (3840 x 2160) หรือที่เรียกว่า 4K ที่เป็นความคมชัดระดับสูงสุดแล้วการเลือกฟังก์ชั่นระดับท็อปคือความสมบูรณ์แบบ สำหรับการเลือกซื้อย่อมต้องลงลึกรายละเอียดของแต่ละยี่ห้อด้วย
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่ smart tv ที่ใช้หน้าจอ 4K ทุกรุ่นจะมีเทคโนโลยีเสริมเพื่อให้การแสดงผลดีที่สุดเราจึงเห็นราคาที่แตกต่างกันในหน้าจอเท่าๆกัน ทั้งสนี้ต้องตรวจสอบสเปคทีวีให้ดีเพราะบางครั้งก็เกี่ยวข้องกับฟังก์ชั่นยิบย่อยอื่นๆที่ทำให้แต่ละรุ่นมีความแตกต่างกัน
ชิพประมวลผลคืออีกสิ่งที่ต้องเน้นเพราะในแบรนด์อย่าง Sony ปกติจะใช้ X-Reality PRO แต่ในทีวีหน้าจอ 4K มีการเพิ่ม 4K Processor X1 เพื่อปรับคอนทราสต์และสีสันที่เน้นความคมชัดสมจริงเป็นธรรมชาติกว่านี่จึงเป็นอีกรายละเอียดของ smart tv ที่คุณควรรู้
ในส่วนของ Panasonic TV ในรุ่นท็อปอย่าง CX600T หรือ CX700T จะมีการเพิ่มการประมวลผลผ่าน Quad Core Pro ส่งให้การทำงานรวดเร็วไม่ติดขัดให้การใช้งานทุกฟังก์ชั่น
sony tv คือแบรนด์ที่เราหยิบมารีวิวกับ 2 รุ่น คือ KDL-40W700C และ KDL-55W800C แน่นอนว่าราคาและฟังก์ชั่นทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานแล้วล่ะว่ารุ่นใหม่เหมาะกับคุณที่สุด
เหตุผลหลักเลยในการเลือกทีวีทั้ง 2 รุ่นนี้มาเพราะภาพรวมเทคโนโลยยีต่างๆอยู่ในเกณฑ์ทันสมัยโดยเฉพาะความเป็น SMART TV ที่ผมเน้นมาตลอดว่าจำเป็นมากหากไม่อยากได้ทีวีตกรุ่นไปใช้ อย่างไรก็ตาม sony tv ทั้งสองรุ่นจะมีฟังก์ชั่นเล็กๆน้อยๆที่บางคนก็คิดว่าจำเป็นแต่บางคนกลับมองว่าสิ้นเปลืองในการลงทุนผมจึงต้องจับมาแจกแจงรายละเอียดกันให้อ่านข้อต่อข้อเลยครับ
ถัดมาที่เทคโนโลยีการรับชมแม้ sony tv ทั้งสองรุ่นจะใช้ความละเอียดแบบ Full HD (1920 x 1080) พร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง X-Reality PRO (ปรับสเกลความสมจริงของภาพ) รวมถึง ClearAudio (คุณภาพเสียง) แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนคือค่า Motionflow XR ที่รุ่น 40 นิ้วใช้ 200 Hz แต่รุ่น 55 นิ้วกระโจนไปที่ 800 Hz ทีเดียวเชียว ถามว่าเจ้าค่า Motionflow XR คืออะไร? ตอบคือค่าเกี่ยวกับการแทรกเฟรมในคอนเทนท์แต่ละแบบการรับชมจะสมูทมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับค่านี้ แต่ถามว่ารุ่น 40 นิ้ว (Motionflow XR 200 Hz) เพียงพอต่อการรับชมแค่ไหน? บอกเลยว่าไม่ขี้เหร่เพราะ led tv ส่วนมากจะให้มาแค่ 100 Hz แถามไม่ใช่เทคโนโลยีแบบเดียวกับ sony tv อีกด้วย
สิ่งที่โดดเด่นและมีในสองรุ่นนี้คือเทคโนโลยี Viewing Angle ที่จะพูดถึงมุมมองการรับชมกว้าง 178 องศา ตรงนี้ไม่ว่ารับชม sony tv จากมุมไหนในห้องก็คมชัดเท่าการนั่งหันหน้าตรงเข้าทีวี มาถึงสิ่งที่แตกต่างคือในรุ่น 55 นิ้วรองรับการรับชมแบบ 3D เพิ่มเข้ามา
ปิดท้ายกับฟังก์ชั่น Smart tv ที่แตกต่างกันกันที่เวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติซึ่ง KDL-55W800C (55 นิ้ว) ใช้เวอร์ชั่นใหม่กว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นได้เหมือนกันจะแตกต่างที่หน้าอินเตอร์เฟซและรุ่น 55 นิ้ว จะรองรับใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้มากกว่า รวมถึง Google Cast (การย้ายคอนเทนท์จากสมาร์ทโฟนขึ้นจอทีวี) และ Voice Search ในการควบคุมและค้นหา
sony tv การันตีความเป็นนวัตกรรมความบันเทิงที่ดีที่สุดประจำปี 2015 หลังผงาดคว้ารางวัลสุดยอด LED TV , Smart TV และสุดยอดดีไซน์ จากเว็บไซต์ชั้นนำของวงการทีวีและนิตยสารเครื่องเสียงและภาพ
Best Full HD LED TV Award
W800C
นี่คือรางวัลที่ตัดสินจากเกณฑ์ในเรื่องของดีไซน์ คุณสมบัติ และราคาคุ้มค่า จนได้ผลลัพธ์ออกมาเป็น sony tv หน้าจอ 50 นิ้ว ที่รองรับเทคโนโลยี 3D Active รุ่นนี้คุ้มค่ามากๆกับฟังก์ชั่นระดับท็อปทั้ง Motion 800 Hz และระบบปฏิบัติการ Android Lollipop เวอร์ชั่นใหม่ที่โดดเด่นกับ Leanback Launcher เรียกว่ากลมกล่อมทุกรายละเอียดตอบโจทย์การใช้งานได้สมบูรณ์แบบจริงๆ
Best Smart TV Award
Android 5.0 Lollipop
ระบบปฏิบัติการเหนือชั้นที่ปรับหน้าอินเตอร์เฟซใช้งานง่ายกับหน้าจอ Leanback Launcher กับ 5 แถบเมนูแยกหมวดการทำงานที่เป็นระเบียบ ความโดดเด่นคือแอพพลิเคชั่นมากมายจาก Play Store และฟังก์ชั่นล้ำๆที่พัฒนาโดย Google ถือว่า sony tv คิดถูกจริงๆที่เลือกซอฟท์แวร์นี้มาทำระบบสมาร์ททีวีของตนเอง
Best Design Award
X9000C
สุดยอดการออกแบบตกเป็นของหน้าจอขนาด 65 นิ้ว ที่บางเฉียบเพียง 4.9 มิลลิเมตร sony tv x9000c รองรับการติดตั้งทั้งแบบตั้งโต๊ะและแขวนผนัง ความบางของเครื่องคือความเนียนตาในการติดตั้งที่กลมกลืนกับเฟอร์นิเจอร์แถมสเปคขั้นสูงกับหน้าจอ 4K ผสานชิพประมวลผล X1 และความเป็น Android 5.0 นี่คือรุ่นไฮเอนด์ที่ถูกเลือกว่ามีดีไซน์สวยงามที่สุดของปี 2015
ชื่อเสียงของ Google ในวงการเว็บเบราว์เซอร์ แอพพลิเคชั่น และระบบปฏิบัติการโทรศัพท์มือถือคือเบอร์ 1 เรื่องเทคโนโลยีล้ำสมัยและคงไม่ผิดนักหากจะบอกว่านี่คือผู้นำของวงการ IT ในปัจจุบัน เช่นกันกับ SONY ที่ไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำกับนิยามแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลก
โซนี่เลือกระบบปฏิบัติการ Android TV โดยมีผลิตภัณฑ์หลักทรงประสิทธิภาพอย่าง Google Search , YouTube และ PlayStore ที่เป็นลิขสิทธิ์โดยตรงของ Google จึงมั่นใจได้ว่าฟังก์ชั่นความบันเทิงระดับท็อปย่อมถูกใส่ไว้ใน sony tv อย่างแน่นอน
อัพเดทเทรนด์ smart tv รุ่นใหม่ล่าสุด Lollipop 5.0 นี่คือความสะดวกในการใช้งานกับหน้าอินเตอร์เฟซที่จัดเรียงคอนเทนท์เป็นระเบียบ ความฉลาดที่ทุกคนสามารถใช้งานได้และชื่นชอบคือการแนะนำรายการที่อยู่ในนกระแสหรือเชื่อมต่อไอดีของคุณเพื่อรับชมรายการเฉพาะของแต่ละยูสเซอร์
การสั่งการคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างในความเป็นสมาร์ททีวีระดับท็อปได้เป็นอย่างดี sony bravia ชูรีโมท Touchpad Remote ที่ให้คุณเข้าถึงทุกเมนูเพียงการวาดนิ้วทำงานร่วมกับฟังก์ชั่น One Flick การรับชมรายการถัดไปขณะที่คอนเทนท์เดิมยังเล่นอยู่ก็ไม่จำเป็นต้องออกแล้วเข้าใหม่
ความบันเทิงที่เหนือชั้นคือการที่คุณสามารถผูกการทำงานของสมาร์ทโฟนเข้ากับทีวีโซนี่ เราเรียกความสามารถนี้้ว่า google cast มีอะไรให้เล่นเยอะครับนอกจากพื้นฐานอย่างการแชร์ภาพ คลิป และเพลง ไปที่หน้าจอใหญ่แล้วยังให้คุณถ่ายเซลฟี่ผ่านหน้าจอทีวีและใช้งานโหมดอื่นๆจากมือถือผ่าน sony tv
ดีไซน์คือสิ่งที่ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นไม่เคยมองข้าม ขอบจอบางเฉียบคือเทรนด์ของทีวีรุ่นใหม่ Sony พัฒนาจนได้ชื่อว่าบางที่สุดในโลกและขาตั้งอันโดดเด่น นี่คือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่คู่ควรแก่บ้านของคุณ
sony tv แบรนด์ชั้นนำจากประเทศญี่ปุ่นให้คุณรับชมคอนเทนท์คุณภาพสูงผ่านเทคโนโลยีล้ำสมัย วันนี้พามาพบกับ Bravia ระดับท็อปซึ่งเป็นตัวเรือธงของ sony tv สร้างสรรค์ทุกความบันเทิงผ่านหน้าจอที่ดีที่สุด
หน้าจอความละเอียดสูงสุด ULTRA HD (3840 x 2160) หรือ 4K นี่คือหน่วยความคมชัดระดับ 8 ล้านพิกเซล ซึ่งสูงกว่าความละเอียดแบบ Full HD ถึง 4 เท่าเลยทีเดียว พร้อมใส่นวัตกรรมเฉพาะของ sony tv อย่าง X-Reality PRO ปรับปรุงคอนเทนท์ทุกแบบให้ใกล้เคียงความเป็น 4K ที่สุด
Triluminos Display เพิ่มเฉดสีนับล้านให้การแสดงผล sony tv เข้าถึงทุกประสบการณ์ความบันเทิงที่ถูกต้องและงดงาม สัมผัสความเหนือชั้นกว่าทีวีทั่วไปด้วยตัวคุณเองได้แล้ววันนี้
ทางโซนี่เข้าใจพฤติกรรมการใช้งานจริงของแต่ละบ้านทำให้ sony tv ทุกรุ่นมีเทคโนโลยี X-protection pro ป้องกันอุปกรณ์จากไฟกระชาก , ไฟตก และฟ้าผ่า นี่คือแบรนด์ที่เข้าถึงผู้บริโภคอย่างแท้จริง
tv led นิยามคุณภาพของโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆมาแข่งขันกันมากมาย สำหรับในปัจจุบันการเลือกซื้อ tv led ไม่ได้มีรูปแบบเหมือนเก่าที่เน้นความคมชัดบนหน้าจอใหญ่เท่านั้น
หากคุณกำลังมองหาทีวีเครื่องใหม่ผมเต็มใจแนะนำเทคโนโลยีที่ต้องเน้นว่าควรมีใน tv led ปัจจุบันเพื่อความคุ้มค่าที่สุดสามารถรองรับความบันเทิงที่หลากหลายกว่าครับ เริ่มจากหน้าจอผมเน้นว่าต้องเป็นความละเอียดแบบ Full HD (1920 x 1080) ขึ้นไปเพราะด้วยสัญญาณภาพในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นระบบทีวีดิจิตอลหรือการรับชมคอนเทนท์จากเครื่องเล่นหน้าจอชนิดนี้ตอบโจทย์การรับชมได้ครบถ้วนครับ
ถัดมาเป็นการรองรับการเล่นไฟล์จากพอร์ท USB ที่หลายๆค่ายใส่มาเพื่อความสะดวกในการที่คุณจะเชื่อมต่อข้อมูลจากแฟลชไดร์หรือ Hard Disk Drive เพื่อรับชมภาพยนต์ ภาพถ่าย หรือเสียงเพลง โดยไม่ต้องตั้งค่าอะไรเลยนี่เป็นอีกคุณสมบัติที่ tv led ยุคใหม่ควรมีครับ
สุดท้ายคือฟังก์ชั่น smart tv ที่พูดถึงกันอย่างกว้างขวางเพราะยกระดับอุปกรณ์ให้ต่างจากทีวีรุ่นเก่าไปอย่างสิ้นเชิง หลักๆแล้วความสามารถของ tv led ที่มีระบบสมาร์ทจะสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ต รองรับการติดตั้งแอพพลิเคชั่น และเชื่อมต่อการทำงานกับสมาร์ทโฟน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคนี้ได้สมบูรณ์แบบ
ราคาทีวีรุ่นใหม่หลากฟังก์ชั่นเพื่อการรับชมที่แตกต่าง สำรวจสเปครุ่นที่คุณต้องการจากแบรนด์ชั้นนำ ทุกรุ่น led tv ระบบ smart tv สุดยอดการทำงานที่รองรับการใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นที่ดีที่สุด
ราคาทีวีหน้าจอ 50 นิ้ว ความละเอียดแบบ Full HD รับชมเป็นธรรมชาติด้วยค่าการตอบสนอง 200 Hz โดดเด่นด้วยลำโพง 10 วัตต์ ระบบ Power bass Boos ให้เสียงหนักแน่นและ Audio Distortion ปรับคุณภาพเสียงเพื่อการรับชมที่ดีที่สุด
PANASONIC TH-50A410T
แบรนด์คุณภาพกับดีไซน์แข็งแรงรับกับหน้าจอ 50 นิ้ว ความละเอียด Full HD แสดงผลผ่านจอ IPS LED เทคโนโลยี Wide Viewing Angle รองรับมุมมอง 178 องศา การรับชมคอนเทนท์จากอุปกรณ์ภายนอกไม่ว่าจะเป็นภาพ เสียง และวีดีโอ บน Media Player ผ่านพอร์ท USB