วันอังคารที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

sharp tv แนวทางการเลือกซื้อเปรียบเทียบสเปคตามการใช้งาน

sharp tv อีกหนึ่งนวัตกรรมทีวีจากญี่ปุ่นที่ส่งมาทำตลาดหลายรุ่นโดยมีสเปคและราคาที่แตกต่างของรุ่นต่างๆ บทความรีวิวผลิตภัณฑ์คุณภาพจากชาร์ปเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจซื้อที่ตรงตามการใช้งาน


เริ่มจากหน้าจอ 32 นิ้ว LE260M หรือ LE260 มีให้เลือก 2 สีคือดำและขาวบนความละเอียดแบบ HD Ready (1366 x 768) พร้อมเทคโนโลยี AquoMotionLite 200/240 Hz ซึ่งนับว่าสูงกว่า led tv ทีวีหน้าจอขนาดเดียวกันที่ใช้แค่ 100 Hz ภาพเคลื่อนไหวจึงสมูทกว่า


ขยับมาที่ sharp tv หน้าจอ 40 นิ้ว ที่ปรับมาใช้ความละเอียดแบบ Full HD แต่มีความแตกต่างกันของสองรุ่นคือ LE275X ใช้ค่าการแทรกเฟรมระดับ 200/240 Hz และเทคโนโลยีเสริมเรื่องภาพและเสียงอย่าง Eagle View/Dolby Digital Plus แต่ในส่วนของ LE265M ใส่มาแค่ 50/60 Hz เท่านั้นแต่อย่างไรก็ตาม LE265M ก็มีราคาทีวีที่ถูกกว่า

ส่วนหน้าจอขนาดใหญ่ขนาด 50 นิ้ว มาพร้อมกัน 3 ทางเลือกหากเน้นใช้งานในการรับชมทั่วไปแนะนำรุ่น LE275X สเปคของรุ่นนี้ถือเป็นตัวธรรมดาด้วย Full HD + AquoMotionLite 200/240 Hz เพียงแต่ปรับหน้าจอใหญ่ขึ้นเท่านั้น


ในพาร์ทของความเป็น SMART TV มี 2 รุ่นครับกับหน้าจอ 50 นิ้ว คือ LE570X และ UE630X ความแตกต่างคือความคมชัดที่ LE570X ใช้แบบ Full HD + ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์เวอร์ชั่น 4.4.4 ส่วนชาร์ป UE630X ใช้ความละเอียดสูงสุดแบบ Ultra HD 4K พร้อมระบบปฏิบัติการเวอร์ชั่นล่าสุด Android Lollipop 5.1 ที่รองรับแอพพลิเคชั่นต่างๆได้มากกว่า

ปิดท้ายด้วยรุ่นท็อปของ sharp tv กับซีรีย์ LE960X มีหน้าจอ 60 และ 70 นิ้วให้เลือกกับความสามารถในการรองรับการรับชมคอมเทนท์ 3 มิติ ความละเอียดแบบ ULTRA HD 4K (3840 x 2160) ผสานค่า AquoMotion สูงถึง800/960 เก็บทุกรายละเอียดเข้าถึงอารมณ์ที่สุด


ส่วนเรื่องของคอนทราสต์ก็ใช้เทคโนโลยีจอภาพ X-Gen ภาพโทนมืดจึงเข้มที่สุดเช่นเดียวกับโทนสีขาวก็ไม่พลาดรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ นอกจากนี้ยังใช้ชิพประมวลผล Quattron Pro ควบคุมการทำงานในเรื่องของภาพที่สมจริงและความไหลลื่นของฟังก์ชั่นสมาร์ททีวีเวอร์ชั่นล่าสุด





0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น