ซีรีย์แรกเป็นรหัสจำพวก W600D, W650D, W750D ที่โดดเด่นเรื่องราคาประหยัดเริ่มต้นเพียง 1 หมื่นต้นๆเท่านั้น และก็เข้าคอนเซ็ปต์สมาร์ททีวีในรูปแบบดิจิตอลทีวีชูโรงด้วย Youtube ที่การันตีว่าใช้งานได้ดีเยี่ยมบน sony tv รุ่นนี้เพียงแต่ข้อด้อยอาจจะเป็น Platform ที่จำกัดความสามารถในการใช้งานบางแอพฯและหน้าจอความละเอียดสูงสุดแค่ Full HD
ความแตกต่างเพียงเล็กน้อยที่ sony tv ส่งทีวีแบบ 3D ออกมาราคาประหยัดออกมาในรุ่น W800C แม้จะเป็นหน้าจอความละเอียดแบบ Full HD แต่ปรับค่าการแทรกเฟรม Motionflow XR สูงถึง 800Hz และยังเป็นสมาร์ททีวีที่มีระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งถือเป็น Platform ที่ใช้ในทีวีรุ่นใหม่ทุกรุ่นจึงมั่นใจได้ว่าความสามารถเด็ดๆที่พัฒนาโดย Google ใช้งานได้จริง
Google Cast หนึ่งในฟังก์ชั่นอันโดดเด่นของ Android TV
ความคมชัดสูงสุดระดับ Ultra HD (3840 x 2160 Pixel) หรือที่เรียกว่า 4K TV คือสเปคระดับท็อปที่หลายคนให้ความสนใจซึ่งในรุ่น SONY KD-55X8500D ถูกพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดมาให้ครบครันดังนี้
- High Dynamic Range (HDR) นวัตกรรมคอนทราสต์ใหม่ล่าสุดที่เข้าถึงทุกรายละเอียดการแสดงผลที่ดีที่สุด
- ชิพประมวลผล 4K Processor X1 และ 4K X-Reality PRO ให้ความคมชัดเสมือนจริงสูง
- TRILUMINOS กระบวนการเรื่องสีที่ครอบคลุมมากที่สุด
นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับเรื่องของเสียงด้วยเทคโนโลยีมากมายทั้ง DSEE, S-Force Front Surround, ClearAudio+ และ Clear Phase ทั้งหมดส่งให้ sony tv เครื่องนี้สมบูรณ์แบบบนพื้นฐานความเป็น Smart tv ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณภาพตอบโจทย์ทุกความบันเทิงอย่างเหนือชั้น
ยังไม่หมดเพราะยังมีรุ่นที่เหนือชั้นกว่านี้อีกกับ X9300D, X9300C หรือ 9400C ที่เพิ่มคุณสมบัติการรับชม 3D บนความละเอียดแบบ 4K Ultra HD พร้อมปรับค่าการแทรกเฟรมมาเป็น Motionflow XR 1200Hz พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ตั้งแต่ 63 นิ้วขึ้นไป ฯลฯ
ทั้งหมดคือการรีวิวสเปค sony tv รุ่นต่างๆเปรียบเทียบเทคโนโลยีเพื่อการรับชมที่เหมาะกับคุณมอบประสบการณ์ความบันเทิงสำหรับการเลือกซื้อที่คุ้มค่าที่สุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น