Fully Auto Restart คือการทำงานหลังไฟดับโดยอัตโนมัติจนเสร็จสิ้นกระบวนการ , Air Jet DRY ช่วยให้ผ้าแห้งไวยิ่งขึ้นเหมาะมากหากต้องซักผ้าในช่วยฤดูฝน และปิดท้ายกับฟังก์ชั่นความสะอาด Auto Self Clean ดูแลความสะอาดตัวถังเครื่องซักผ้าอัตโนมัติเตรียมพร้อมกับการทำงานครั้งต่อไป
air condition มีบทบาทสำคัญในหน้าร้อนนี้และคุณสมบัติการทำความเย็นถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะขาดไปไม่ได้ เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่สร้างความแตกต่างทำตลาดกันอย่างคึกคักจึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะนำเทคโนโลยีใหม่ๆมาอัพเดทครับ
การทำความเย็นเร็ว ทั่วถึงทุกบริเวณ และประหยัด คือนิยามที่ air condition ทุกค่ายนำเสนอต่อผู้บริโภคอยู่แล้วแต่สิ่งที่แตกต่างคือกระบวนการทำความเย็นเฉพาะตัวอันโดดเด่นที่จะทำให้การเลือกซื้อแอร์บ้านของคุณง่ายขึ้นแน่นอน
นี่คือ air condition รุ่นใหม่ที่โดดเด่นทุกมุมมองล้ำสมัยกับดีไซน์สามเหลี่ยมและไฟบลูไลท์ การทำความเย็นที่เข้าใจผู้ใช้กับ 2 Step Cooling เย็นอย่างรวดเร็วและ Single User Mode การทำอุณหภูมิอีกแบบสำหรับการอยู่คนเดียวช่วยปประหยัดพลังงานบนนพื้นฐานความสบายสูงสุด
air condition น่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาเครื่องปรับอากาศโดยตั้งงบประมาณไว้ล่ะก็มีเทคโนโลยีที่ต้องตัดสินใจว่าควรมีไว้ในรุ่นที่จะซื้อหรือไม่เพราะเกี่ยวข้องกับราคาชัดเจนครับ
สารทำความเย็น
สารทำความเย็นคือสิ่งแรกที่ต้องพิจารณาเพราะยี่ห้อ air condition ส่วนใหญ่ใช้คุณสมบัตินี้แหละทำตลาดและก็เพิ่มมูลค่าราคาแอร์ไปในตัว อย่างนวัตกรรมสารทำความเย็นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของ Daikin หรือสารทำความเย็นประสิทธิภาพสูง R410a ใน Samsung The Triangle ใหม่
กระบวนการทำงานของพัดลมไอเย็นมีความพิเศษด้วยช่องใส่น้ำแข็งหรือน้ำเย็นที่จะถูกแผ่น Cooling Pad เปลี่ยนไอน้ำเป็นแรงลมที่เย็นกว่าพัดลมธรรมดา รวมทั้งลดอุณหภูมิโดยรอบจึงรู้สึกสบายกว่าพัดลมที่จะดูดลมร้อนมาเป่าคุณแทน
sony tv คือแบรนด์ที่เราหยิบมารีวิวกับ 2 รุ่น คือ KDL-40W700C และ KDL-55W800C แน่นอนว่าราคาและฟังก์ชั่นทั้ง 2 รุ่นแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานแล้วล่ะว่ารุ่นใหม่เหมาะกับคุณที่สุด
เหตุผลหลักเลยในการเลือกทีวีทั้ง 2 รุ่นนี้มาเพราะภาพรวมเทคโนโลยยีต่างๆอยู่ในเกณฑ์ทันสมัยโดยเฉพาะความเป็น SMART TV ที่ผมเน้นมาตลอดว่าจำเป็นมากหากไม่อยากได้ทีวีตกรุ่นไปใช้ อย่างไรก็ตาม sony tv ทั้งสองรุ่นจะมีฟังก์ชั่นเล็กๆน้อยๆที่บางคนก็คิดว่าจำเป็นแต่บางคนกลับมองว่าสิ้นเปลืองในการลงทุนผมจึงต้องจับมาแจกแจงรายละเอียดกันให้อ่านข้อต่อข้อเลยครับ
ถัดมาที่เทคโนโลยีการรับชมแม้ sony tv ทั้งสองรุ่นจะใช้ความละเอียดแบบ Full HD (1920 x 1080) พร้อมเทคโนโลยีเฉพาะตัวอย่าง X-Reality PRO (ปรับสเกลความสมจริงของภาพ) รวมถึง ClearAudio (คุณภาพเสียง) แต่ความแตกต่างที่ชัดเจนคือค่า Motionflow XR ที่รุ่น 40 นิ้วใช้ 200 Hz แต่รุ่น 55 นิ้วกระโจนไปที่ 800 Hz ทีเดียวเชียว ถามว่าเจ้าค่า Motionflow XR คืออะไร? ตอบคือค่าเกี่ยวกับการแทรกเฟรมในคอนเทนท์แต่ละแบบการรับชมจะสมูทมากน้อยแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับค่านี้ แต่ถามว่ารุ่น 40 นิ้ว (Motionflow XR 200 Hz) เพียงพอต่อการรับชมแค่ไหน? บอกเลยว่าไม่ขี้เหร่เพราะ led tv ส่วนมากจะให้มาแค่ 100 Hz แถามไม่ใช่เทคโนโลยีแบบเดียวกับ sony tv อีกด้วย
สิ่งที่โดดเด่นและมีในสองรุ่นนี้คือเทคโนโลยี Viewing Angle ที่จะพูดถึงมุมมองการรับชมกว้าง 178 องศา ตรงนี้ไม่ว่ารับชม sony tv จากมุมไหนในห้องก็คมชัดเท่าการนั่งหันหน้าตรงเข้าทีวี มาถึงสิ่งที่แตกต่างคือในรุ่น 55 นิ้วรองรับการรับชมแบบ 3D เพิ่มเข้ามา
ปิดท้ายกับฟังก์ชั่น Smart tv ที่แตกต่างกันกันที่เวอร์ชั่นของระบบปฏิบัติซึ่ง KDL-55W800C (55 นิ้ว) ใช้เวอร์ชั่นใหม่กว่า อย่างไรก็ตามทั้งสองรุ่นสามารถใช้งานเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นได้เหมือนกันจะแตกต่างที่หน้าอินเตอร์เฟซและรุ่น 55 นิ้ว จะรองรับใช้งานแอพพลิเคชั่นใหม่ๆได้มากกว่า รวมถึง Google Cast (การย้ายคอนเทนท์จากสมาร์ทโฟนขึ้นจอทีวี) และ Voice Search ในการควบคุมและค้นหา